ทาครีมกันแดด เคล็ดลับวิธีทาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ครีม

ทาครีมกันแดด เคล็ดลับวิธีทาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการอยู่กลางแดดอย่างปลอดภัยคือการ ทาครีมกันแดด ซึ่งครีมกันแดดไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอันตรายอื่น ๆ ของแสงแดดด้วย ในการทาครีมอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ส่วนผสมและวิธีการใช้ ควรทาครีมก่อนออกไปข้างนอกอย่างน้อย 30 นาที และทาซ้ำขณะอยู่กลางแจ้ง สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดที่มากเกินไป เพื่อให้เราปลอดภัยจากแสงแดดได้โดยไม่เกิดอันตราย


ทำไมการทาครีมกันแดดจึงสำคัญ

ทำไมการทาครีมกันแดดจึงสำคัญ

รู้หรือไม่ว่าแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญอยู่ทุกวันเป็นตัวการทำลายผิวพรรณอย่างมาก เพราะทั้งความร้อนและรังสีต่าง ๆ ในแสงแดดสามารถทำอันตรายกับผิวให้หมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื่น และเข้าไปทำร้ายลึกถึงผิวชั้นใน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นและเกิดปัญหาต่าง ๆ บนผิวของเราได้ ดังนั้น นอกจากการสวมเสื้อผ้าป้องกันและพกแว่นกันแดด การเลือกครีมกันแดดจึงเป็นอีกตัวช่วยที่ปกป้องผิวได้

ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของสารกันแดด ซึ่งมีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีในแสงแดด ที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดเป็นปัญหาผิวตามมามากมาย เช่น ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ หน้ามัน หรือสิวอุดตัน 

แล้วทำไมทุกคนถึงควรทาครีมกันแดด ? เหตุผลหลักประการหนึ่งที่ควรใช้ครีมกันแดดคือการปกป้องผิว การทาครีมจะช่วยสะท้อนแสงออกไปหรือดูดซับแสงเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้แสงทะลุเข้ามาสัมผัสกับผิวเราได้โดยตรง ซึ่งครีมกันแดดสามารถช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ และแม้จะไม่ได้ออกไปทำงานกลางแจ้ง โดนแดดบ่อยนักหรือนั่งทำงานหน้าคอมฯ ตลอดเวลา แต่รังสี UV รอบตัวก็ยังทำลายผิวได้ อีกอย่างการทาครีมแดดจะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง รวมถึงปัญหาผิวอื่น ๆ ด้วย การทาครีมกันแดดจึงมีความสำคัญต่อการปกป้องผิว

ก่อนที่จะเริ่มทาทราบหรือไม่ว่า ครีมกันแดดมีรูปแบบใดบ้างและวิธีการใช้ครีมกันแดด นั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะหากทาและใช้แบบผิด ๆ อยู่ บอกได้เลยว่านอกจากจะไม่ปกป้องผิวจากแสงแดดแล้วยังส่งผลเสียมากกว่าผลดีอีกด้วย แต่หากอยากทราบว่าความรู้เบื้องต้นมีอะไรบ้าง วันนี้จะพาไปหาคำตอบพร้อมกัน


วิธีเลือกครีมกันแดดอย่างไรให้เหมาะสม

วิธีเลือกครีมกันแดดอย่างไรให้เหมาะสม

แสงแดดแรงขึ้นทุกวันส่งผลให้ต้องเผชิญกับปัญหาผิวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่แน่นอนว่าเราสามารถที่จะหลีกเลี่ยงและปกป้องผิวจากแดดได้ไม่ยาก ครีมกันแดดก็มีการแยกประเภทอย่างชัดเจน หากนำมาใช้แบบผิด ๆ อาจจะส่งผลเสียต่อผิวและไม่สามารถปกป้องผิวได้เต็มประสิทธิภาพ แล้วต้องเลือกอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบว่า ครีมกันแดดแบบไหน ที่เหมาะกับผิวของเรา หรือเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ซึ่งแบ่งตามคุณสมบัติได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. ครีมกันแดดประเภทดูดซับรังสี (Chemical Sunscreen) ครีมกันแดดประเภทนี้มีสารเคมีที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับรังสีในแสงแดด ช่วยป้องกันไม่ให้รังสีสัมผัสกับผิวของเรา ข้อดีของครีมกันแดดประเภทนี้คือไม่มีสีหรือมีสีอ่อนและราคาไม่แพง ส่วนข้อเสียคือต้องทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อเติมการดูดซับรังสีได้มากขึ้น และสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายต้องระวังเพราะอาจแพ้สารเคมีได้
  2. ครีมกันแดดประเภทสะท้อนรังสี (Physical Sunscreen) มีคุณสมบัติช่วยสะท้อนรังสีและกระจายรังสีจากแสงแดดออกไปจากผิวได้เกือบทั้งหมด ข้อดีคือเหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และไม่จำเป็นต้องทาซ้ำบ่อย ๆ
  3. ครีมกันแดดประเภทผสม (Chemical – Physical Sunscreen) ครีมกันแดดที่ผสมผสานทั้งการดูดซับรังสีและการสะท้อนรังสีเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและช่วยลดการระคายเคืองของผิว

เมื่อต้องเลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสม อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าครีมกันแดดที่เลือกสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA/UVB และสังเกตประเภทผิวของคุณเองว่าเป็นคนผิวประเภทไหน ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วร่างกาย รวมทั้งใบหน้าและลำคอแล้วปล่อยให้ซึมเข้าสู่ผิวก่อนลงผลิตภัณฑ์แต่งหน้าหรือสกินแคร์อื่น ๆ ที่สำคัญหลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดที่ผสมสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและอาจทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายด้วย แนะนำ ครีมกันแดดสําหรับคนเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย


ทาครีมกันแดด อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

ครีมกันแดด เป็นวิธีที่ดีอย่างยิ่งในการหลีกเลี่ยงและปกป้องป้องผิวจากแสงแดดแรงจัด แต่ถ้ายังไม่รู้วิธีทาครีมอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ เรามีคำแนะนำดี ๆ สำหรับขั้นตอนการทาครีมให้มีประสิทธิภาพมาฝากกัน

1. เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป

ทาครีมกันแดด เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป

SPF ย่อมาจาก Sunburn Protection Factor เป็นค่าที่บอกความสามารถของครีมกันแดดในการป้องกันการไหม้แดงของผิว ซึ่งเกิดจากรังสียูวีบี (UVB) โดยปกติยิ่งค่าสูงจะยิ่งทำให้อยู่กลางแดดได้นานมากขึ้นก่อนจะมีอาการผิวไหม้ ซึ่งความจําเป็นที่จะต้องเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงก็ขึ้นกับลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน หากไม่ได้ทำงานออกแดดนานค่า SPF 30 ขึ้นไปก็เพียงพอแล้ว  

2. ทาครีมกันแดดสูตรกันน้ำกันเหงื่อ

ทาครีมกันแดดสูตรกันน้ำกันเหงื่อ

สิ่งที่มาพร้อมกับแสงแดดก็คือปริมาณเหงื่อที่เพิ่มขึ้น ครีมกันแดดสูตรกันน้ำกันเหงื่อจึงเป็นไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดและไม่ต้องกังวลว่าจะถูกน้ำและโดนเหงื่อจนทำให้ประสิทธิภาพลดลง รวมทั้งควรเลือกที่เนื้อบางเบา สบายผิว และไม่ทำเกิดสิวอุดตัน ทั้งนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจึงควรทาครีมกันแดดซ้ำอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง

3. ทาครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว

ทาครีมกันแดด ให้เหมาะกับผิว

ครีมกันแดดที่ดีจะต้องเข้าได้กับสภาพผิวหน้าของเรา กระจายได้ดี ไม่ทำให้เกิดคราบ ซึ่งครีมกันแดดในปัจจุบันก็มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อครีม เจล สเปรย์ หรือโลชั่น แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน เช่น คนผิวมันหรือผิวเป็นสิวง่ายควรเลือกชนิดที่เป็นเจล โลชั่น หรือสูตรน้ำที่ไม่มันวาวและไม่อุดตันรูขุมขน สำหรับคนผิวแห้งควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น เซราไมด์ กรดไฮยาลูโรนิก เป็นต้น

4. วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง

วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง

การ ทาครีมกันแดด อย่างถูกต้องจะช่วยปกป้องผิวจากรังสีของแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะหลายคนอาจทาครีมกันแดดบาง ๆ เนื่องจากไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะ หรือทาครีมกันแดดแค่วันละครั้งแล้วคิดว่าเพียงพอต่อการป้องกันแดดทั้งวัน ซึ่งล้วนแต่ทำให้การทาครีมกันแดดไร้ประสิทธิภาพ

วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง คือ ใช้ครีมกันแดดในปริมาณ 1 ช้อนชา หรือ 2 ข้อนิ้วมือ สำหรับบริเวณใบหน้าและลำคอ ทาครีมกันแดดอย่างน้อย 15-30 นาทีก่อนออกแดดเสมอ นอกจากนี้ควรทาครีมกันแดดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือหากออกแดดบ่อยควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ครีมกันแดดซึมซาบสู่ผิว


ภัยร้ายจากแสงแดด หากไม่ใช้ครีมกันแดด

ภัยร้ายจากแสงแดด หากไม่ใช้ครีมกันแดด

รังสี UV จากแสงแดดสามารถทำลายผิวได้ รวมถึงรังสีอินฟราเรด แสงสีฟ้า ล้วนเป็นอันตรายกับผิวพรรณและยังทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่น ยิ่งถ้าไม่ดูแลบำรุงผิวให้ดีหรือไม่ทาครีมกันแดด ย่อมทำให้เกิดปัญหาผิวและโรคต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น

  • โรคมะเร็งผิวหนัง เพราะรังสี UV จะเข้าทำลาย DNA ในร่างกายจนทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ ยิ่งร่างกายโดนแสงแดดจัดโดยตรงเป็นเวลานาน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากขึ้น
  • ผิวไหม้แดด หากโดนแสงแดดเป็นเวลานาน ผิวจะเกิดอาการแสบไหม้ ซึ่งมีทั้งเคสที่รุนแรงและไม่รุนแรง ทำให้ผิวมีสีแดง เจ็บปวดและเป็นแผลพุพองได้
  • หากโดนแดดเผาเป็นเวลานาน ๆ โดยที่ไม่มีการปกป้องจะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย รวมถึงฝ้า กระ จุดด่างดำ และปัญหาผิวอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

เรียกได้ว่า “แสงแดด” เป็นภัยร้ายที่หลายคนกลับมองข้าม ทั้งยังเป็นสาเหตุของปัญหาผิวและก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย อีกทั้งการรักษานั้นยุ่งยากมากกว่าการป้องกันตั้งแต่เริ่ม การปกป้องผิวจากแสงแดดจึงเป็นสิ่งที่ห้ามมองข้าม และการที่ไม่ทาครีมกันแดดหรือปกป้องร่างกายด้วยการสวมเสื้อผ้าป้องกันแดด ย่อมส่งผลโดยตรงต่อสภาพผิวโดยตรง ฉะนั้น ทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้านไปเจอแสงแดด อย่าลืม ทาครีมกันแดด โดยเด็ดขาด รวมถึงมองหา สกินแคร์ ไว้ช่วยบำรุงผิวอีกทางหนึ่งด้วย 


อ้างอิง

AboutKittiya Tonsakul

หลังจบหลักสูตรเทคนิคการแพทย์ ปัจจุบันทำงานเป็นดีเทลยาให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ชื่นชอบการแต่งหน้าและหาวิธีดูแลผิวมาตั้งแต่สมัยเรียน เลยตัดสินใจทำรีวิวลงในเว็บออนไลน์ชื่อดังอยู่ช่วงหนึ่งและมาเปิดเว็บไซต์เขียนบทความให้คำแนะนำเกี่ยวกับสกินแคร์ และเคล็ดลับอีกมากมายเกี่ยวกับวิธีการดูแลผิว รวมถึงผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ใช้แล้วดี