วิธีเลือกและใช้ครีมกันแดด เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมีผิวประเภทใดก็ตาม แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย การเลือกและใช้ครีมกันแดดอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นพิเศษ เนื่องจากผิวแพ้ง่ายมีแนวโน้มที่จะเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ง่ายกว่าผิวปกติ อย่างไรก็ตาม การปกป้องผิวจากรังสี UV ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันความเสียหายของผิวในระยะยาว ดังนั้น การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมและการใช้อย่างถูกวิธีจึงเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลผิวแพ้ง่ายเมื่อต้องเผชิญกับแสงแดด
บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญของการใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อใช้ครีมกันแดด เทคนิคการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม วิธีการทาครีมกันแดดอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงข้อควรระวังเพิ่มเติมในการดูแลผิวแพ้ง่ายให้แข็งแรงและดูดี เพื่อให้ผู้อ่านสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาผิวที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการระคายเคือง ผิวแห้ง ผื่นแดง หรือสิว ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าใจง่าย ทุกคนจะสามารถเลือกและใช้ครีมกันแดดได้อย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องและบำรุงผิวแพ้ง่ายได้อย่างดีที่สุด
ความสำคัญของการใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย
ผิวแพ้ง่ายเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมักมีปฏิกิริยาไวต่อสารก่อภูมิแพ้หรือสิ่งกระตุ้นภายนอก ทำให้เกิดอาการระคายเคือง แดง คัน หรือผื่นขึ้นบนใบหน้า แม้ว่าผิวแพ้ง่ายจะต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แต่ก็ยังจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากรังสี UV เช่นเดียวกับผิวประเภทอื่น ๆ หากคุณมีผิวแพ้ง่ายคุณอาจสนใจบทความนี้ 7 สกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่าย
การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำช่วยป้องกันผิวจากอันตรายของแสงแดด ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ฝ้า กระ และลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอาจพบว่าการเลือกและใช้ครีมกันแดดนั้นเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากครีมกันแดดบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือกระตุ้นให้เกิดปัญหาผิวตามมา
ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อใช้ครีมกันแดดกับผิวแพ้ง่าย
- การอุดตันรูขุมขน: ครีมกันแดดบางชนิดมีเนื้อสัมผัสหนักหรือมัน ซึ่งอาจทำให้รูขุมขนอุดตันและนำไปสู่การเกิดสิวอุดตัน
- การระคายเคืองผิว: ส่วนผสมบางอย่างในครีมกันแดด เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารเคมีบางชนิด อาจทำให้ผิวแพ้ง่ายเกิดการระคายเคือง แดง คัน หรือแสบร้อน
- การแพ้หรือภูมิแพ้: ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอาจมีปฏิกิริยาแพ้ต่อส่วนผสมบางอย่างในครีมกันแดด เช่น สารกันเสีย สารกันแดดเคมี หรือสารที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
- ความรู้สึกไม่สบายผิว: ครีมกันแดดบางชนิดอาจทำให้ผิวรู้สึกหนักหรือเหนียวเหนอะหนะ ซึ่งอาจสร้างความรำคาญหรือไม่สบายผิวให้กับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมและปฏิบัติตามเทคนิคการใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมา
วิธีเลือกและใช้ครีมกันแดด สำหรับผิวแพ้ง่าย
การเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากผิวแพ้ง่ายมีแนวโน้มที่จะเกิดการระคายเคืองหรือปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ได้ง่ายกว่าผิวปกติ ดังนั้น การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องผิวจากรังสี UV โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมา
เทคนิคแรกในการเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย คือ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยนและปราศจากสารก่อภูมิแพ้ ครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายควรปราศจากน้ำหอม สารกันเสีย และสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ พาราเบน หรือสารลดแรงตึงผิว ควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมน้อยชิ้นและมีสูตรที่อ่อนโยนต่อผิว
อีกเทคนิคหนึ่งที่สำคัญ คือ การพิจารณาเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดดธรรมชาติ เช่น ซิงค์ออกไซด์หรือไทเทเนียมไดออกไซด์ สารเหล่านี้จะช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB โดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือปฏิกิริยาแพ้ เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารเคมีที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง น้ำหอมและแอลกอฮอล์เป็นสารที่มักก่อให้เกิดปัญหากับผิวแพ้ง่าย ทำให้ผิวแห้ง แดง หรือคัน ดังนั้น จึงควรตรวจสอบส่วนผสมในครีมกันแดดให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
การเลือกสูตรครีมกันแดดที่เหมาะกับประเภทผิวก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยลดการเกิดปัญหาผิว สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวมัน ควรเลือกครีมกันแดดสูตรเจลหรือสูตรน้ำ ซึ่งจะให้ความรู้สึกบางเบาและไม่อุดตันรูขุมขน ในขณะที่ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง ควรเลือกครีมกันแดดสูตรครีมที่มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วย
สุดท้าย ก่อนเลือกใช้ครีมกันแดดใด ๆ ควรทดสอบการแพ้โดยทาครีมกันแดดเพียงเล็กน้อยบริเวณใต้ใบหูหรือหลังมือ และสังเกตอาการในช่วง 24-48 ชั่วโมง หากไม่เกิดปฏิกิริยาแพ้หรือระคายเคือง ก็สามารถใช้ครีมกันแดดนั้นได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากมีอาการแพ้หรือระคายเคืองเกิดขึ้น ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาทางแก้ไข
การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมและอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายนั้นเป็นเรื่องสำคัญ การใส่ใจกับส่วนผสม เลือกสารป้องกันแดดจากธรรมชาติ หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง และเลือกสูตรที่เหมาะกับประเภทผิว จะช่วยให้ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาผิวที่ตามมา
วิธีทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาผิว
การทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลและปกป้องผิวจากอันตรายของรังสี UV อย่างไรก็ตาม หากทาครีมกันแดดอย่างไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ดังนั้น จึงควรใส่ใจกับวิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้องเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ครีมกันแดด
- ขั้นตอนแรกในการทาครีมกันแดด คือ การทำความสะอาดผิวหน้าและเตรียมผิวให้พร้อม ควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับประเภทผิว จากนั้นซับผิวให้แห้งและรอสักครู่เพื่อให้ผิวเย็นลง การทาครีมกันแดดบนผิวที่สะอาดและแห้งจะช่วยให้ครีมกันแดดซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และลดการอุดตันของรูขุมขน
- ต่อมา ควรใช้ปริมาณครีมกันแดดที่เหมาะสม โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดปริมาณประมาณ 2 นิ้ว หรือเท่ากับขนาดเหรียญ 1 บาท สำหรับใบหน้าและลำคอ การใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยให้ได้รับการปกป้องผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากใช้ในปริมาณที่น้อยเกินไป อาจทำให้ระดับการป้องกันแสงแดดไม่เพียงพอ
- ขั้นตอนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การกระจายครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าอย่างเบามือ ไม่ควรถูหรือขัดถูผิว เนื่องจากอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดการอักเสบได้ ควรใช้นิ้วมือแตะครีมกันแดดเบา ๆ และค่อย ๆ กระจายให้ทั่วใบหน้า รวมถึงบริเวณใกล้ดวงตา จมูก และปาก ซึ่งเป็นจุดที่มักถูกละเลยในการทาครีมกันแดด
- หลังจากทาครีมกันแดดเสร็จแล้ว ควรรอให้ครีมกันแดดซึมเข้าสู่ผิวประมาณ 15-20 นาที ก่อนแต่งหน้าหรือออกแดด ระยะเวลานี้จะช่วยให้ครีมกันแดดเกาะติดกับผิวได้ดีขึ้น และไม่ถูกเช็ดออกในขั้นตอนการแต่งหน้า การแต่งหน้าหรือทากิจกรรมกลางแจ้งทันทีหลังทาครีมกันแดด อาจทำให้ประสิทธิภาพของครีมกันแดดลดลงได้
นอกจากนี้ หากต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน หรือมีเหงื่อออกมาก ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อรักษาระดับการปกป้องผิวให้คงที่ และควรใช้ปริมาณครีมกันแดดเท่ากับครั้งแรกที่ทาในแต่ละรอบการทาซ้ำ
การทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธีเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการเกิดปัญหาผิว การเตรียมผิวให้พร้อม ใช้ปริมาณที่เพียงพอ กระจายครีมอย่างเบามือ และรอให้ซึมเข้าสู่ผิวก่อนแต่งหน้าหรือออกแดด จะช่วยให้ผิวได้รับการปกป้องจากรังสี UV อย่างเต็มประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการเกิดปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์จากการใช้ครีมกันแดด ซึ่งจะช่วยรักษาสุขภาพผิวให้แข็งแรงและดูดีในระยะยาว
ข้อควรระวังเพิ่มเติมสำหรับผิวแพ้ง่าย
ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายต้องใส่ใจดูแลผิวเป็นพิเศษ นอกจากการเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมแล้ว ยังมีข้อควรระวังอื่น ๆ ที่ควรปฏิบัติเพื่อรักษาสุขภาพผิวและป้องกันการเกิดปัญหาผิว
- ข้อแรก คือ การหมั่นทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนทุกวัน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น สารลดแรงตึงผิว น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ การทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธีจะช่วยขจัดสิ่งสกปรก เหงื่อ และมลภาวะออกจากผิว ป้องกันการอุดตันของรูขุมขนและลดการเกิดสิว ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
- ต่อมา ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับผิวแพ้ง่าย เช่น โลชั่น ครีมบำรุง หรือเซรั่ม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และมีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว สารสกัดจากธรรมชาติบางชนิด เช่น ว่านหางจระเข้ กรดไฮยาลูโรนิก หรือเซราไมด์ อาจช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวแพ้ง่ายได้ อย่างไรก็ตาม ควรทดสอบผลิตภัณฑ์กับผิวเป็นบริเวณเล็ก ๆ ก่อนใช้จริง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เกิดปฏิกิริยาแพ้หรือระคายเคือง
- อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อสุขภาพผิว คือ การดื่มน้ำและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การดื่มน้ำเพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ส่วนอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อาหารที่มีกรดไขมันโอเมกา 3 หรืออาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยบำรุงและปกป้องผิวจากภายใน
- ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดในช่วงเวลาที่แดดจัด โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00 น. ถึง 16.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงที่รังสี UV มีความเข้มข้นสูง หากจำเป็นต้องออกแดด ควรใช้มาตรการปกป้องผิวอย่างเคร่งครัด เช่น ทาครีมกันแดด สวมใส่เสื้อผ้าแขนยาว กางร่ม หรือหมวกปีกกว้าง เพื่อลดการสัมผัสแสงแดดโดยตรง ซึ่งอาจทำให้ผิวแพ้ง่ายเกิดการระคายเคืองหรือแพ้แดดได้
- หากผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายปฏิบัติตามข้อควรระวังต่าง ๆ แล้ว แต่ยังคงพบปัญหาผิว เช่น ผิวแห้ง แดง คัน มีผื่นขึ้น หรือเป็นสิวบ่อย ๆ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมและออกแบบการดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อช่วยให้ผิวแพ้ง่ายแข็งแรงและดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ
การดูแลผิวแพ้ง่ายอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ การทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ดื่มน้ำและทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงการป้องกันผิวจากแสงแดด จะช่วยรักษาสมดุลของผิว ลดการระคายเคือง และป้องกันการเกิดปัญหาผิวในระยะยาว ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายไม่ควรละเลยการดูแลผิว และควรพบแพทย์ผิวหนังเป็นประจำ เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้สามารถรักษาสุขภาพผิวให้ดูดีได้อย่างยั่งยืน
สรุปได้ว่า จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าการเลือกและใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง การเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ มีสารป้องกันแสงแดดจากธรรมชาติ และเหมาะกับประเภทผิว จะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือปัญหาผิว นอกจากการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมแล้ว วิธีการทาครีมกันแดดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การทำความสะอาดผิว ใช้ปริมาณที่เพียงพอ กระจายครีมอย่างทั่วถึง และรอให้ซึมเข้าสู่ผิวก่อนแต่งหน้าหรือออกแดด จะช่วยให้ครีมกันแดดออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากการใช้ครีมกันแดดแล้ว การดูแลผิวแพ้ง่ายในแง่มุมอื่น ๆ เช่น การทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว รวมถึงการหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาสุขภาพผิวให้แข็งแรง ลดการระคายเคือง และป้องกันการเกิดปัญหาผิวในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากยังพบปัญหาผิวที่ไม่ดีขึ้นแม้จะปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ แล้ว ก็ไม่ควรลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
การใส่ใจเลือกและใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสม ร่วมกับการดูแลผิวอย่างอ่อนโยนและเอาใจใส่ จะช่วยให้ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถปกป้องและบำรุงผิวให้แข็งแรง สวยงาม ปราศจากปัญหาผิวที่น่ารำคาญ แม้ในวันที่ต้องเผชิญกับแสงแดดจ้า ด้วยความเข้าใจและเลือกปฏิบัติอย่างถูกต้อง ทุกคนสามารถมีผิวที่แข็งแรงและสุขภาพดี พร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมั่นใจ
คำถามที่พบบ่อย
1. ผิวแพ้ง่ายควรเลือกครีมกันแดดแบบไหน?
ผิวแพ้ง่ายควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารเคมีที่อาจทำให้ระคายเคือง ควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดดจากธรรมชาติ เช่น ซิงค์ออกไซด์หรือไทเทเนียมไดออกไซด์ และเลือกสูตรที่เหมาะกับประเภทผิว เช่น สูตรเจลหรือน้ำสำหรับผิวมัน สูตรครีมสำหรับผิวแห้ง
2. ควรทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการดูแลผิวใช่หรือไม่?
ใช่ ควรทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากทำความสะอาดผิว ใช้โทนเนอร์ และบำรุงผิวด้วยเซรั่มหรือครีม ควรรอให้ครีมกันแดดซึมเข้าสู่ผิวประมาณ 15-20 นาทีก่อนแต่งหน้าหรือออกแดด เพื่อให้ครีมกันแดดเกาะติดกับผิวและออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
3. ควรทาครีมกันแดดซ้ำบ่อยแค่ไหนเมื่ออยู่กลางแจ้ง?
หากต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานานหรือมีเหงื่อออกมาก ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อรักษาระดับการปกป้องผิวให้คงที่ โดยควรใช้ปริมาณครีมกันแดดเท่ากับครั้งแรกในแต่ละรอบที่ทาซ้ำ เพื่อให้ได้รับการปกป้องอย่างเต็มประสิทธิภาพ
4. นอกจากการใช้ครีมกันแดด ควรดูแลผิวแพ้ง่ายอย่างไรเพิ่มเติม?
นอกจากการใช้ครีมกันแดดแล้ว ควรหมั่นทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนทุกวัน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับผิวแพ้ง่าย ดื่มน้ำเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดในช่วงเวลาที่แดดจัด หากยังพบปัญหาผิวที่ไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม
อ้างอิง :
- Elisabeth G. Richard, “All About Sunscreen”, Skincancer, July 2022, https://www.skincancer.org/skin-cancer-prevention/sun-protection/sunscreen/
- Megan Sander, “The efficacy and safety of sunscreen use for the prevention of skin cancer”, Ncbi.nlm.nih, December, 14, 2020, https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7759112/
- “Yes, You Should Wear Sunscreen Every Day”, Health.clevelandclinic, August 7, 2023, https://health.clevelandclinic.org/why-you-should-wear-sunscreen-every-day