ความเครียด ส่งผลอย่างไรกับผิวหน้าและน้ำหนัก? พร้อมวิธีจัดการ
บทความ

ความเครียด ส่งผลอย่างไรกับผิวหน้าและน้ำหนัก? พร้อมวิธีจัดการ

ความเครียด เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กับภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง บวกกับปัญหาต่างๆ นานา ยิ่งทำให้หลายคนต้องเผชิญกับความเครียดที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจ แต่ทราบหรือไม่ว่า ความเครียดไม่เพียงบั่นทอนสุขภาพจิต แต่ยังส่งผลเสียต่อผิวพรรณและน้ำหนักอีกด้วย เมื่อเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น กระตุ้นการอักเสบ ทำให้เกิดสิว ผิวแห้งกร้าน เกิดริ้วรอยเร็ว ในขณะเดียวกัน ความเครียดก็เพิ่มความอยากอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่ให้พลังงานสูงจากไขมันและน้ำตาล นำมาสู่ภาวะน้ำหนักเกิน

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราสามารถจัดการความเครียดเพื่อคงความสดใสของผิวพรรณและรูปร่างได้ไม่ยาก ด้วยเคล็ดลับดีๆ ที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน ทั้งการปรับกิจวัตรการดูแลผิว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลือกอาหารให้ฉลาด หมั่นผ่อนคลาย และขอความช่วยเหลือหากจำเป็น เพียงเท่านี้ ความเครียดก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ คุณก็จะมีผิวสวยใส มีหุ่นที่กระชับได้แบบสบายๆ แถมสุขภาพจิตก็ยังดีอีกด้วย งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า กับวิธีจัดการความเครียดเพื่อเผยผิวสุขภาพดี ควบคู่กับรูปร่างที่เป๊ะสมใจ แบบที่ใครเห็นก็ต้องทึ่ง


ความเครียด ส่งผลต่อผิวหน้าอย่างไร?

ความเครียด ส่งผลต่อผิวหน้าอย่างไร

ความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แต่หากเราปล่อยให้ความเครียดสะสมเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจ รวมถึงผิวหน้าของเราด้วย เมื่อเราเครียด ร่างกายจะตอบสนองโดยการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ซึ่งฮอร์โมนนี้มีผลกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนใบหน้า เมื่อน้ำมันมากเกินไป จะอุดตันรูขุมขน ก่อให้เกิดสิว ผิวอักเสบ คัน และแห้งกร้านได้

นอกจากนี้ คอร์ติซอลยังเร่งการสลายตัวของคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง เมื่อคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ผิวจะเริ่มหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยและบางลง ความยืดหยุ่นไม่เหมือนเดิม วิธีการดูแลผิวพรรณตามสภาพผิว โดยความเครียดยังกระตุ้นการทำงานของเซลล์มาสต์ ซึ่งเป็นเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันที่อยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อเซลล์มาสต์ทำงานมากเกินไป จะก่อให้เกิดอาการแพ้และปฏิกิริยาการอักเสบของผิว นำไปสู่โรคผิวหนังเรื้อรังต่างๆ เช่น ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ ลมพิษ โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้น ความเครียดยังเพิ่มการหลั่งไซโตไคน์ ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ส่งสัญญาณการอักเสบ สาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน แดง คัน และระคายเคือง โดยเฉพาะเมื่อไซโตไคน์หลั่งออกมาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น การจัดการความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงเพื่อสุขภาพจิตแต่ยังเพื่อผิวพรรณที่สุขภาพดีอีกด้วย วิธีลดความเครียดที่ง่ายและทำได้ทุกวัน ได้แก่ การหายใจลึกๆ ออกกำลังกาย ทำสมาธิ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลตัวเองอย่างการมองหาวิธีการดูแลผิวพรรณตามสภาพผิว และทำกิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลาย เมื่อเราสามารถควบคุมความเครียดได้ ปัญหาผิวหน้าจากความเครียดก็จะลดน้อยลง เผยผิวสวยสุขภาพดีได้ไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม หากความเครียดรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ไม่ควรลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อค้นหาสาเหตุของความเครียดและวิธีจัดการที่เหมาะสมกับตัวเรา เริ่มต้นเล็กๆ น้อยๆ แต่สม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ ผิวก็จะค่อยๆ กลับมาสุขภาพดี เปล่งปลั่ง สดใส ดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง


ความเครียดส่งผลต่อน้ำหนักอย่างไร?

ความเครียด ส่งผลต่อน้ำหนักอย่างไร

ความเครียดไม่ได้ส่งผลเสียแค่สุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัวด้วย เมื่อเกิดความเครียดเรื้อรัง ร่างกายจะตอบสนองด้วยการเพิ่มระดับน้ำตาลและอินซูลินในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เรารู้สึกหิวและอยากอาหารที่ให้พลังงานสูง มีไขมันและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน ของทอด อาหารจานด่วน เพื่อชดเชยพลังงานที่สูญเสียไป ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ในระยะยาว

นอกจากนี้ ความเครียดยังรบกวนการทำงานของฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร ทั้งฮอร์โมนเลปตินที่ควบคุมความอิ่ม และฮอร์โมนเกรลินที่กระตุ้นความหิว ทำให้เรากินมากกว่าปกติ ทั้งปริมาณและความถี่ การที่คอร์ติซอลทำงานมากขึ้น ยังไปยับยั้งการผลิตฮอร์โมน CRH ที่ช่วยควบคุมความอยากอาหารอีกด้วย

หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดก็ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ เมื่อนอนหลับไม่สนิท ไม่ครบ 7-8 ชั่วโมง ระดับฮอร์โมนเกรลินจะเพิ่มสูงขึ้นในวันถัดไป ทำให้หิวบ่อย กินจุบจิบมากขึ้น ในทางกลับกัน ฮอร์โมนเลปตินที่ให้ความรู้สึกอิ่มกลับลดลง เสี่ยงต่อการสะสมน้ำหนักส่วนเกินในระยะยาว

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่มีความเครียดสูงมักใช้พลังงานน้อยลง ขาดแรงจูงใจในการออกกำลังกาย อยากนอนมากกว่าเคลื่อนไหวร่างกาย การเผาผลาญก็เบาบางลงตามไปด้วย ยิ่งหากกินเยอะแต่ขยับน้อย ความสมดุลพลังงานในร่างกายยิ่งเสียไป ผลลัพธ์ที่ตามมาคือน้ำหนักที่ค่อยๆ ปีนขึ้นสู่ตัวเลขที่ไม่พึงปรารถนานั่นเอง

แม้การควบคุมอาหารและออกกำลังเป็นประจำจะช่วยลดน้ำหนักได้ แต่การจัดการความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึง ลองสังเกตความเชื่อมโยงระหว่างความเครียดกับพฤติกรรมการกิน บันทึกอาหารและอารมณ์ประจำวัน หากินอาหารด้วยสติ เลือกอาหารให้ครบหมวดหมู่ เน้นผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนไขมันดี งดของหวานและแป้งทอด หรือลองมองหา อาหารผิวสวย ช่วยหุ่นเพรียว พร้อมออกกำลังกาย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ ฝึกผ่อนคลายความเครียดเป็นประจำ ทั้งโยคะ หายใจลึก ทำสมาธิ ไปจนถึงทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือ เพียงเท่านี้ น้ำหนักก็จะค่อยๆ ลดลงแบบสุขภาพดีและยั่งยืนได้แน่นอน


วิธีจัดการความเครียดเพื่อผิวหน้าและน้ำหนักที่ดีขึ้น

วิธีจัดการความเครียดเพื่อผิวหน้าและน้ำหนักที่ดีขึ้น

ความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะจัดการกับมันเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี รวมถึงผิวพรรณและน้ำหนักที่เป็นตัวชี้วัดสำคัญ วันนี้เรามีเคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน มาฝากกัน

เริ่มต้นด้วยการพัฒนากิจวัตรการดูแลผิวให้เป็นนิสัย ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน ตามด้วยครีมบำรุงให้ชุ่มชื้น และอย่าลืมครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้ายในตอนเช้า แค่เท่านี้ ผิวก็จะแข็งแรง เปล่งปลั่ง พร้อมรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ การออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญ ไม่เพียงช่วยลดความเครียด ปรับอารมณ์ให้แจ่มใส แต่ยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงผิว ให้ผิวดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย หากออกกำลังกายกลางแจ้ง ยิ่งได้รับวิตามินดีจากแสงแดดพอเหมาะ วันละ 5-15 นาที ซึ่งจะช่วยเพิ่มสารสื่ออารมณ์ดีอย่างเซโรโทนินได้ด้วย

ในแง่ของอาหารการกิน เน้นผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านความเครียดและริ้วรอยแห่งวัย ลดอาหารทอด ไขมันและน้ำตาลสูง เพราะนอกจากจะกระตุ้นสิวแล้ว ยังเพิ่มน้ำหนักได้ง่าย อย่าลืมดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เพื่อผิวชุ่มชื้น กระปรี้กระเปร่า และควบคุมความอยากอาหารด้วย

วิธีจัดการความเครียดเพื่อผิวหน้าและน้ำหนักที่ดีขึ้น 2

ส่วนเทคนิคผ่อนคลายง่ายๆ ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา คงหนีไม่พ้นการหายใจเข้าออกลึกๆ โดยหายใจเข้าให้ท้องป่องและหายใจออกให้ท้องแฟบ ทำช้าๆ วันละ 5-10 นาที จะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลลงได้ ตอนกลางคืนก็พักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมง ร่างกายจะได้ซ่อมแซมตัวเองและควบคุมน้ำหนักได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

หากรู้สึกเครียดสะสม การพูดคุยระบายกับคนใกล้ชิดที่ไว้ใจ ก็ช่วยคลายความอัดอั้นได้เป็นอย่างดี ไม่ควรเก็บไว้คนเดียวจนปวดหัวปวดตัว จะส่งผลต่อผิวหน้าและน้ำหนักในที่สุด แต่หากอาการเครียดนั้นรุนแรงจนทำให้ใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ ก็ไม่ควรลังเลที่จะขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสม เพื่อลดความเครียดและคืนความสมดุลแก่ชีวิตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

การดูแลสุขภาพกายและใจให้มั่นคง โดยสร้างนิสัยที่ดีทีละน้อย จะเป็นพื้นฐานสำคัญให้เราสามารถจัดการความเครียดในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลต่อความสดใสของผิวพรรณและตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักไปในทางที่ดีขึ้นนั่นเอง


สรุปแล้ว จะเห็นได้ว่า ความเครียดไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับปัญหาผิวพรรณและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย เมื่อเครียด ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะถูกกระตุ้น ทำให้เกิดการอักเสบ สิว ผิวแห้ง และริ้วรอยก่อนวัย ขณะเดียวกัน ความอยากอาหารโดยเฉพาะของหวานของมันก็จะเพิ่มขึ้น นำมาซึ่งน้ำหนักส่วนเกิน

อย่างไรก็ตาม เรามีวิธีรับมือกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากการสร้างกิจวัตรการดูแลผิวที่ดี ออกกำลังกายเป็นประจำ กินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ฝึกการผ่อนคลาย และไม่ลังเลที่จะขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความเครียด พร้อมเผยผิวสวยสดใส และควบคุมน้ำหนักในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน

บทสรุปก็คือ การจัดการความเครียดเป็นหัวใจสำคัญของการมีผิวพรรณและรูปร่างที่ดี ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมทั้งกายและใจนั่นเอง แม้จะดูเหมือนเรื่องยาก แต่หากค่อยๆ ปรับเปลี่ยนทีละน้อย สร้างให้เป็นนิสัย รับรองว่าผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่า ทั้งผิวหน้าที่เปล่งปลั่ง กระชับ และตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักที่น่าพึงพอใจ แถมยังมีความสุข มั่นใจ และพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ในชีวิตได้ดียิ่งขึ้น ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะคะ แล้วจะแปลกใจเมื่อค้นพบว่า จริงๆ แล้วเราก็สามารถเอาชนะความเครียด เพื่อสุขภาพผิวและรูปร่างในฝันได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ


คำถามที่พบบ่อย

1. ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพผิวอย่างไรบ้าง?

ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น ซึ่งกระตุ้นการอักเสบ ทำให้เกิดสิว ผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอยก่อนวัย และยังส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินที่ช่วยกระชับผิวอีกด้วย

2. ความเครียดมีผลต่อน้ำหนักได้อย่างไร?

ความเครียดเรื้อรังจะเพิ่มระดับน้ำตาลและอินซูลินในเลือด กระตุ้นความอยากอาหารโดยเฉพาะอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น ขนมหวาน ของทอด อาหารจานด่วน ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ ความเครียดยังรบกวนฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและความอิ่ม ทำให้กินมากขึ้น แต่ออกกำลังกายน้อยลง ซึ่งนำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกิน

3. มีวิธีจัดการความเครียดเพื่อดูแลผิวพรรณอย่างไรบ้าง?

เริ่มจากการสร้างกิจวัตรการดูแลผิวที่ดี ได้แก่ ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ทาครีมบำรุงและครีมกันแดด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับวิตามินดีจากแสงแดดวันละ 5-15 นาที เลือกอาหารที่มีประโยชน์โดยเน้นผักผลไม้ ลดของทอดและน้ำตาล ดื่มน้ำให้เพียงพอ ฝึกการผ่อนคลายด้วยการหายใจลึกๆ หรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ และพักผ่อนให้เพียงพอ

4. หากความเครียดรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรทำอย่างไร?

อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เช่น จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ซึ่งจะช่วยค้นหาสาเหตุของความเครียดและแนะนำวิธีจัดการที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขและมีความสมดุลทั้งสุขภาพกายและใจ รวมถึงผิวพรรณและน้ำหนักที่ดีอย่างยั่งยืน

อ้างอิง :

AboutKittiya Tonsakul

หลังจบหลักสูตรเทคนิคการแพทย์ ปัจจุบันทำงานเป็นดีเทลยาให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ชื่นชอบการแต่งหน้าและหาวิธีดูแลผิวมาตั้งแต่สมัยเรียน เลยตัดสินใจทำรีวิวลงในเว็บออนไลน์ชื่อดังอยู่ช่วงหนึ่งและมาเปิดเว็บไซต์เขียนบทความให้คำแนะนำเกี่ยวกับสกินแคร์ และเคล็ดลับอีกมากมายเกี่ยวกับวิธีการดูแลผิว รวมถึงผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ใช้แล้วดี